เมนู
ติดต่อเรา
สถานที่ท่องเที่ยวของญี่ปุ่นนั้นมีมากมายเหลือเกิน วันนี้เราได้รวบรวม 29 สถานที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ที่คุณต้องไม่พลาด ไปเยือนกันสักครั้งให้ได้มาดูกันเลยว่าจะมีที่ไหนกันบ้าง 1. Kawachi Fuji Garden : ฟุกุโอกะ
อยากมีความรู้สึกเหมือนได้เดินอยู่ในภาพวาดสีน้ำมันแสนสวยไหม ? ที่ในฝันตั้งอยู่ที่นี่แล้วค่ะท่ามกลางอุโมงค์ดอกไม้ Wisteria นั่นเอง สวน Kawachi Fuji Garden นี้มีต้น Wisteria มากกว่า 150 ต้นและ 20 สายพันธุ์ เหมาะกับการไปเดินชิลล์ๆ ผ่อนคลายสบายใจ นอกจากนี้ช่วงปลายๆ เดือนเมษายนของทุกปีจะมีการเฉลิมฉลอง Wisteria Festival อีกด้วยค่ะ ที่อยู่ 2-2-48 Kawachi, Yahata-Higashi-ku, Kitakyushu City, Fukuoka, Japan โทร.093-652-0334 เปิดเวลา 9.00-18.00 น. 2. Happo Pond : นางาโน่
Happo Pond ตั้งอยู่ในบริเวณอุทยานแห่งชาติของนากาโน่ รู้จักกันในชื่อของสถานที่เหมาะกับการเล่นสกีในฤดูหนาว แอ่งน้ำนี้อยู่ในภูเขาที่มีความสูงถึง 2,060 เมตรจากระดับน้ำทะเลเลยทีเดียว แน่นอนว่าวิวตรงนี้สวยงามจับใจค่ะ ที่อยู่ Hakuba Happo-one Sky Resort, Hakuba, Nagano, Japan โทร.+81 261 72 3066 3. Motonosumi-inari Shrine : ยามากุจิ
เสาโทริอิสีแดงตั้งตระง่านจากภูเขาไปจนถึงทะเล ที่นี่คือ Motonosumi-inari Shrine ศาลเจ้าที่ช่วยให้ผู้คนที่มาอธิษฐานประสบความสำเร็จ เชื่อไหมล่ะว่า หลังจากที่คุณหย่อยเงินบริจาคลงในกล่องรับบริจาคตรงเสาโทริอิต้นสุดท้าย ความหวังทั้งหลายของคุณจะประสบความสำเร็จ ที่อยู่ 498 Yuyatsuo, Nagato, Yamaguchi, Japan โทร. +81 837 23 1137 4. Nachi Fall : วากายามะ
Nachi Fall น้ำตกที่สูงที่สุด และใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ที่สูงถึง 133 เมตร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่จัดได้ว่าสวยมากๆ ในญี่ปุ่น และบริเวณน้ำตกยังมีศาลเจ้า Kumano Nachi Taishai แดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า หนึ่งในมรดกโลก อยู่ใกล้ๆ ยิ่งทำให้รู้สึกอยากจะไปเที่ยวสักครั้ง ที่อยู่ Nachikatsuura, Wakayama, Japan 5. Zao Ski Resort : ยามากาตะ
Zao Onsen เป็นรีสอร์ทที่รู้จักกันทั่วไปในรีสอร์ทที่คนญี่ปุ่นจะไปเล่นสกี และที่นี่ไม่ได้มีดีเฉพาะช่วงหน้าหนาว หิมะตก ยังมีช่วงที่สวยงามด้วยภูเขา และต้นไม้อีกด้วย ที่อยู่ Yamagata, Japan โทร.+81 23 694 9328 6. Kintetsu Beppu Ropeway : โออิตะ
ที่นี่เป็นอีกสถานที่ที่เราจะได้ชมวิวสวยๆ โดยไม่ต้องปีนเขาไปให้เหนื่อย เพราะมีกระเช้าซึ่งรับน้ำหนักผู้โดยสารได้ถึง 101 คนขึ้นไปบนยอดเขา Tsurumi ที่สูงที่สุด 1,375 เมตรภายใน 10 นาทีค่ะ ซึ่งจากบนนั้นเราจะได้เห็นวิวโดยรอบของ Beppu ภูเขา Yufu และ Kuju อีกด้วย สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการมาเที่ยวก็คือ ช่วงที่ต้นเชอร์รี่บานทั่วไปทั้งเขาค่ะ ที่อยู่ Oaza Minami Samuhara 10-7, Beppu, Oita, Japan โทร.+81 977 22 2278 7. Matsumoto Castle : นางาโน่
Matsumoto Castle รู้จักกันในชื่อของ “Crow Castle” หรือ ปราสาทอีกา เพราะภายนอกปราสาทมีสีดำนั่นเองค่ะ Matsumoto Castle นี้ยังเป็นปราสาทที่ทำจากไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ มีอายุมากถึง 400 ปีทีเดียว ที่อยู่ 4-1 Marunouchi, Matsumoto, Nagano, Japan โทร.+81 263 32 2902 8. Shiratani Unsuikyo Gorge : คาโกชิม่า
Shiratani Unsuikyo Gorge นี้เป็นสถานที่เหลือเชื่อที่ไม่น่ามีอยู่บนโลกจริงๆ และที่สำคัญยังเป็นสถานที่ให้แรงบันดาลใจในภาพยนตร์อนิเมชั่นเรื่อง Princess Mononoke ของสตูดิโอ Ghibi อีกด้วย ที่อยู่ Yakushima Island, Kagoshima, Japan 9. Hitachi Seaside Park : อิบารากิ
Hitachi Seaside Park รู้จักกันดีในชื่อ “Baby Blue Eyes” เป็นสวนที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นบนเนินเขา Miharashi มีขนาดกว่า 190 เฮกเตอร์ ดอกไม้ที่ปลูกที่นี่มีความสวยงาม น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในแต่ละฤดูกาล ทางสวนจะมีการปลูกดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ไฮไลท์คือการมาถึงเนินเขาที่เต็มไปด้วย ดอก“Nemophilia” ซึ่งเป็นดอกไม้สีฟ้าขนาดเล็กสวยเหมือนในนิทาน 4.5 ล้านดอกเรียงๆ กันอย่างอลังการ ที่อยู่ 605-4 Onuma-aza, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki, Japan โทร.+81 29 265 9001 10. Sagano : เกียวโต
ป่าไผ่ Sagano เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวควรแวะมาเที่ยวสักครั้งหากได้มาญี่ปุ่นค่ะ เราสามารถเดินชมป่าไผ่ตามทางเดินที่ได้จัดไว้ให้เป็นระยะทาง 500 เมตร ตลอดสองข้างทางเดินประกอบไปด้วยต้นไผ่สูงชะลูด และในระหว่างทางนักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับเสียงลำไผ่สีกันยามลมพัด นับเป็นเสียงธรรมชาติที่แสนไพเราะสุดจะบรรยายไปเลยทีเดียว ที่อยู่ Arashiyama, Kyoto, Japan 11. Otaru Snow Light Path Festival : ฮอกไกโด
Napatsan Puakpong/Shutterstock.com เทศกาลในช่วงฤดูหนาวที่พลาดไม่ได้อีกแห่งที่ฮอกไกโดคือ เทศกาล Otaru Snow Light Path Festival ค่ะ จัดขึ้นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นเวลา 10 วันด้วยกัน ความน่าประทับใจคือแสงเทียนนับร้อยที่ลอยอยู่ในแม่น้ำจะเปล่งแสงสว่างชวนฝัน ที่อยู่ Unga Kaijo, Otaru, Hokkaido, Japan โทร.+81 134 32 4111 12. Usa Shrine : โออิตะ
ศาลเจ้า Usa Shrine แห่งนี้สร้างขึ้นช่วงศตวรรษที่ 8 เพื่อถวายแด่เทพเจ้า Hachiman เทพแห่งการยิงธนูและสงคราม ผู้คนมักมาขอพรที่นี่เพื่อความโชคดี ที่อยู่ 2859 Minami-Usa, Usa, Oita, Japan โทร.+81 978 37 0001 13. Mt.Daisen : ทตโตะริ
Mt.Daisen เป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมในทตโตะริ ส่วนหนึ่งของภูเขาไดเซน เป็นอุทยานแห่งชาติไดเซน-โอกิ (Daisen-Oki National Park) สูงถึง 1,729 เมตร เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku) และรวมอยู่ใน 100 อันดับภูเขาที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่นอีกด้วย นอกจากนี้ภูเขาแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณ และศูนย์กลางของการบูชาภูเขา มาเป็นเวลานาน ที่อยู่ 40-33, Daisen-Cho, Shihaku, Tottori, Japan โทร.+81 859 52 2502 14. Tottori-sakyu Sand Hills : ทตโตะริ
ไม่น่าเชื่อว่าที่ญี่ปุ่นจะมีทะเลทราย แต่ก็มี !! เนินทรายยาวถึง 16 กม. เป็นทะเลทรายที่กว้างที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเกิดจากการสะสมของทรายภูเขาไฟมากว่า 100,000 ปี ที่อยู่ San’in Kaigan Geopark, Tottori Sand Dunes, Tottori, japan โทร.+81 796 26 3783 15. Itsukushima Shrine : ฮิโรชิม่า
เชื่อไหมล่ะว่า เสาโทริอิสีแดงสูงกว่า 16 เมตรนี้เป็นประตูเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ และโลกวิญญาณ และคอยป้องกันไม่ให้วิญญาณชั่วร้านเข้ามาในโลกฝั่งนี้ได้ แน่นอนว่าเป็นความเชื่อที่มีมาช้านานของญี่ปุ่น แต่ประตูศักดิ์สิทธิ์นี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญไปอีกด้วย ที่อยู่ 1-1 Mayajimacho, Hatsukaichi, Hirochima, Japan โทร.+81 829 44 2020 16. Lavender Farm : ฮอกไกโด
ประมาณเดือนมิถุนายน – กันยายนของทุกปี ในแถบนี้จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาชมความงดงามของทุ่งลาเวนเดอร์ที่บานสะพรั่งชูสีสันสดใสสวยงามไปทั่วทั้งเมือง โดยเฉพาะฟาร์ม Tomita ซึ่งมีการปลูกต้นลาเวนเดอร์สวยงามมาก ใครได้ไปเที่ยวแล้วอย่าได้พลาดชิมไอศกรีมลาเวนเดอร์กันด้วยนะ ที่อยู่ 15 Nakafurano Kisen Kita, Nakafurano, Sorachi, Hokkaido, Japan โทร.+81 167 39 3939 ขอบคุณที่มาจาก travel.truelife.com